เปิดสังเวียนที่โล่ง ช่อง7เอชดีกลับมาเปิดสังเวียนเวทีที่โล่งแจ้ง “มวยไทย 7 สี” ด้วยวิธีการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดแห่งหนึ่งของประเทศ

เปิดสังเวียนที่โล่ง พร้อมจัดชิงชัยชกมวยไทยสู้วิกฤตโรคโควิด-19 โดยได้รับความร่วมแรงร่วมมือจาก สำนักอนามัย กรุงเทพฯ, สำนักงานเขตจตุจักร รวมทั้ง ที่ทำการคณะกรรมการกีฬาชกมวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่วิเคราะห์

สำหรับในการถ่ายทอดสด วันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค.นี้ เวลา 14.30 น. ทางจอช่อง7เอชดี กด 35 งดเว้น ! การเข้าชมที่ “สนามแข่งมวยช่อง7เอชดี” เจอกับยอดมวยไทยเปิดฉากเวทีที่โล่งแจ้ง รองคู่เอกระหว่าง พรเสน่ห์ ส.ภูมิภัทร กับ มังกรทองคำ ลูกศิษย์นายกทวีปตะพง

และก็มวยคู่เอก “กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย” ผู้ครอบครองสมญานามซ้ายอุกาบาต ขึ้นสังเวียนกับ คนไม่ยินยอมคน หรือ “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” แล้วก็มวยเด็ดคู่อื่นๆพร้อมแลกหมัดต่อสู้กันอย่างครื้นครึก

นายปิยะพงษ์ โพธิ์สูง ผู้จัดการทางด้านฝ่ายผลิตรายการ เปิดเผย “ช่อง7เอชดีแล้วก็รายการมวยไทย 7 สี พร้อมร่วมเกื้อหนุนกีฬาชกมวยไทยให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้โดยสวัสดิภาพ ในตอนเหตุการณ์คุ้มครองป้องกันโรคโควิด-19 ก็เลยดำเนินงานปรับแบบอย่างชั่วครั้งชั่วคราวของ “สนามแข่งมวยช่อง7เอชดี” ให้ถูกตามมาตรการคุ้มครองแล้วก็เฝ้าระวังโรค โควิด-19 อย่างเข้มข้น ต่างกันสุดขั้ว

ปรับแบบเวทีจัดแจงแข่งในพื้นที่ที่โล่งแจ้งเปิดเตียน และก็จัดชิงชัยตามมาตรการปกป้องโรคที่ทางราชการระบุอย่างเคร่งครัด เช่น การจัดโซนแบ่งแยกพื้นที่ปิด จัดแยกให้เป็นสัดส่วน แล้วก็มีการตรวจคัดเลือกกรองหาเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวดด้วยการตรวจแบบอารที-พีซีอาร์

อีกทั้งนักมวย ผู้ตัดสิน รวมทั้งข้าราชการที่เกี่ยว ซึ่งจำกัดปริมาณ 25 คนก่อนเข้าข้างในรอบๆสนาม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการรอบๆ จำต้องผ่านการตรวจด้วยชุดตรวจเอทีเค อีกด้วย แล้วก็ยังจำเป็นต้องปกป้องตัวเองใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และก็ฉีดแอลกอฮอล์ตามจุดสัมผัสต่างๆ

มีการชำระล้างฆ่าเชื้อโรคอีกทั้งก่อนและก็ข้างหลังการแข่งขันชิงชัย เพื่อนักมวย ข้าราชการที่เกี่ยวพันทุกฝ่ายปราศจากโรคไม่เป็นอันตราย เพื่อแฟนมวยไทยได้สนุกสนานอย่างเต็มที่จุใจ หวังเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดสำหรับการร่วมขับให้กีฬาชกมวยไทยเดินหน้าในชีวิตวิถีใหม่โดยสวัสดิภาพและก็ยืนนาน”

เปิดสังเวียนที่โล่ง

เปิดสังเวียนที่โล่ง ส.มวยสากลถึงเวลาจัดชิงชนะเลิศเมืองไทยต้นเดือนธันวาคมนี้

สโมสรกีฬาชกมวยสากลที่เมืองไทย ได้เวลาไฟเขียว จัดแจงแข่งมวยสากลชิงแชมป์ที่เมืองไทย รายปี 2564 ระหว่าง วันที่30 พฤศจิกายน-4ธันวาคมที่ศูนย์ฝึกฝนกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จังหวัดจังหวัดสระบุรี

โดยจัดอีกทั้งชนิดยุวชน-เยาวชนและก็พลเมือง แบบไม่มีผู้เข้าชม ตามมาตรการปกป้องการแพร่ระบาดโควิด-19 พล.ท.อุชุกร สาครนาวิน อุปนายกชมรมกีฬาชกมวยสากลที่เมืองไทย ในฐานะประธานจัดแจงชิงชัย เป็นประธานสัมมนาเพื่อเตรียมตัวจัดแจงชิงชัยมวยสากลชิงแชมป์เมืองไทย รายปีพ.ศ 2564

พร้อม พล.ท. ภิญโญ เข็มเพชร ที่ปรึกษารวมทั้งส่งเสริมให้การจัดแจงแข่งที่ห้องที่ใช้ในการประชุม ด้านในสโมสรกีฬาลอนเทนนิสที่เมืองไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ท.อุชุกร เปิดเผยว่า สโมสรฯได้เรียกสัมมนาคณะกรรมการทุกฝ่าย

ใช้เวลาสัมมนาราว1ชั่วโมงโดยความเห็นชอบห้องประชุมได้ผลสรุปให้จัดศึกมวยสากลชิงชนะเลิศเมืองไทย ปี64 ได้ แล้วก็ระบุวันการประลองชนิดประชากร เป็นวันที่30เดือนพฤศจิกายน-4ธันวาคมที่ศูนย์ฝึกหัดกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก ข่าว มวยไทย

ขณะจำพวกยุวชนแล้วก็เยาวชนชิงชนะเลิศเมืองไทย จะจัดในวันที่ 6-11เดือนธันวาคมที่ศูนย์ฝึกฝนกีฬาแห่งชาติมวกเหล็กด้วยเหมือนกัน “สำหรับจุดประสงค์การจัดการแข่งคราวนี้ เพื่อนักกีฬาอีกทั้งระดับประชาชน เยาวชนแล้วก็ยุวชน ได้มีทัวร์นาเมนต์ชิงชัย สัมพันธ์ได้จัดตามรูปแแบนิวนอร์มอล ไม่มีผู้ชมในสนาม

ซึ่งเน้นย้ำเรื่องวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยนักกีฬาทุกคนควรจะมีการฉีดยารวมทั้งมีใบรับรองแพทย์พร้อมกับมีใบผ่านการตรวจเชื้อโควิดเป็นระเบียบ”พล.ท.อุชุกร กล่าว ดังนี้ การประลองจะแบ่งเป็น 2 จำพวกเป็นยุวชน เยาวชนชาย-หญิง

โดยยุวชนชาย 12 รุ่น ตั้งแต่รุ่น 30กิโลกรัม จนกระทั่งรุ่น 54กิโลกรัม ยุวชนหญิง 12 รุ่น 30กิโลกรัม ถึง รุ่น 52กิโลกรัม เยาวชนชาย 8 รุ่น41กิโลกรัม ถึง รุ่น64 กิโลกรัม เยาวชนหญิง 8 รุ่น 39กิโลกรัม ถึง 60กิโลกรัม ในเวลาที่จำพวกราษฎร ชาย7รุ่นมี รุ่น 49 กิโลกรัมถึงรุ่น75กิโลกรัม ส่วนพสกนิกรหญิง 7 รุ่น รุ่น 48กิโลกรัม-69กิโลกรัม

เปิดสังเวียนที่โล่ง

แต้วสุดาพรเซ็งเหรียญทองแดงโอลิมปิกลอก

“แต้ว” สุดาพร สีสอนดี พบด้วยอีกคน ภายหลังเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2020 “เมืองโตเกียวเกมส์” หลุดลอกทั้งยัง 2 ด้าน แจ้งให้คนแก่ในสโมสรกีฬาชกมวยสากล ทำเรื่องไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกที่เมืองไทยแล้ว เพื่อผสานไปยังประเทศญี่ปุ่น แปลงเหรียญใหม่มาให้

ภายหลังจากที่ผ่านมา นักกีฬาคนจำนวนไม่น้อยที่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันชิงชัยโอลิมปิก 2020 ที่กรุงเมืองโตเกียว ญี่ปุ่น ได้ออกมาแจ้งว่า เหรียญรางวัลเมืองโตเกียวเกมส์ของตนเองได้หลุดลอก

ซึ่งรวมถึง “น้องเทนนิส” พาณิภัค ตระกูลพัฒนกิจ วีรบุรุษเทควันโดสาวไทยด้วย ที่เหรียญทองของเธอเองนั้นได้หลุดลอกจนถึงเสียโฉม ถึงขนาดขอร้องให้คนแก่ในแวดวงกีฬา ช่วยทำเรื่องผสานไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อขอเปลี่ยนแปลงเหรียญใหม่ให้

ปัจจุบัน “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักต่อยสาวไทยประวัติศาสตร์เหรียญทองแดงโอลิมปิก 2020 ในรุ่นไลท์เวต 60 กิโลกรัมหญิง โดนด้วยอีกคน เมื่อ “ผู้ฝึกสอนแซม” ร้อยโทกามนิตย์ นารีรักษ์ หัวหน้าคนฝึกมวยสากลกลุ่มชาติไทย ได้โพสต์ภาพสุดาพร ชี้ไปที่เหรียญทองแดงของตนเอง ซึ่งลอกทั้งยังข้างหน้ารวมทั้งข้างหลัง

หมัดสาวไทยจากจังหวัดอุดรธานีได้พูดว่า แท้จริงเหรียญทองแดงของคุณ หลุดลอกตั้งแต่อาทิตย์ก่อน กระทั่งตนเองเครียดเช่นกัน เพราะเหตุว่าอยากได้เหรียญรางวัลที่งามมากยิ่งกว่า ก็เลยแจ้งไปยังคนแก่ในชมรมกีฬาชกมวยสากลที่เมืองไทย เพื่อทำเรื่องแจ้งไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกที่เมืองไทย

สำหรับในการผสานไปที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอเปลี่ยนแปลงเหรียญใหม่มาให้ “ได้เหรียญทองแดงโอลิมปิกทั้งที หนูก็อยากได้เหรียญที่งามเก็บไว้ เพราะเหตุว่าเป็นคุณค่าทางด้านจิตใจ พอเพียงเหรียญหลุดลอกจนถึงเสียโฉมอย่างงี้ ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าใจนิดเดียว

หวังว่าทางประเทศญี่ปุ่นจะแปลงเหรียญใหม่กลับมาให้” นักต่อยสาววัย 30 ปีกล่าว ดังนี้ เหรียญรางวัลจากการประลองโอลิมปิก 2020 ทำจากอุปกรณ์รีไซเคิล ที่มาจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็ปท็อป, สมาร์ทโฟน และก็อื่นๆแต่ทว่ากลับมาปัญหาหลุดลอกง่าย จนกระทั่งนักกีฬาคนจำนวนไม่น้อยได้ออกมาโวยวาย

https://www.cornermxpark.com