โฮลีฟิลด์คาด อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวตชาวมะกัน คาดว่าสามารถทำเงินได้ไม่น้อยกว่า 6 พันล้านบาท หากศึกรีแมตช์ภาค 3 กับ ไมค์ ไทสัน เกิดขึ้นจริงในอนาคต

โฮลีฟิลด์คาด วันที่ 11 มกราคม64 อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ เห็นด้วยว่าเคยจัดโต๊ะสนทนาเตรียมขึ้นฟาดปากไฟต์ลืมแก่กับ “ไอรอน ไมค์” เมื่อช่วงปลายปี 2020 แต่ทั้งสองไม่สามารถตกลงข้อแม้กันได้ ทำให้ ไทสัน ตกลงใจเลือก รอย โจนส์ จูเนียร์ ขึ้นชกแทน

แต่ว่าปัจจุบัน อดีตแชมป์โลกเฮฟวีเวต วัย 58 ปี เปิดเผยกับ “เดอะ ซัน” ว่า การรีแมตช์ภาค 3 กับเจ้าของฉายา “มฤตยูดำ” ยังไม่เลิก รวมทั้งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจาของผู้แทนทั้งสองฝ่าย

“นี่เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่าทีมงานของผมกำลังคุยกับผู้แทนของไมค์ (ไทสัน) ด้วยเหตุนี้ผมกำลังคอยการตัดสินใจ และก็โน่นเป็นเหตุผลที่ผมยังคงซ้อมอยู่ เพราะผมทราบดีว่าวันใดวันหนึ่งดีลนี้จะเกิดขึ้นจริง และก็ผมก็พร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับเขาแล้ว”

นอกจากนี้ โฮลีฟิลด์ ยังมั่นใจว่า แม้ไฟต์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ทั้งสองยังสามารถนำรายได้ไปช่วยเหลือองค์กรการกุศลได้ ภายหลังที่ในไฟต์ปัจจุบัน ไทสัน ได้มอบเงินให้กับมูลนิธิต่างๆสูงถึง 300 ล้านบาท ข่าว มวยไทย 

“ในมุมมองของผม คุณต้องให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆอยู่เสมอ ผมจะมานะส่งต่อความดีงามซึ่งเกิดขึ้นจากตัวผมเอง ซึ่งในกรณีนี้ผมจะอุตสาหะทำให้ดีที่สุด รวมทั้งมั่นใจว่าการขึ้นชกกับ ไมค์ คงจะสร้างรายได้ถึง 200 ล้านเหรียญ (ราว 6 พันล้านบาท)”

“มันจะเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ รวมทั้งผมรู้สึกว่า ไมค์ ได้รับใจความของผมแล้ว มันเป็นสิ่งที่เขาจะต้องตัดสินใจในตอนนี้ เพื่อพวกเราทั้งสองฝ่ายจะได้มีกติกาด้วยกัน แต่ว่าผมจะไม่บอกคุณหรอกว่าผมจะทำอะไรบ้าง และก็แผนการที่จะใช้การเผชิญหน้ากับ ไมค์ เป็นอย่างไร เนื่องจากว่าผมไม่อยากให้ใครทราบ แต่ว่าผมมั่นใจว่าผมจะเป็นสุขมาก หากได้ขึ้นชกกับเขาอีกที”

สำหรับ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ สามารถเอาชนะ ไมค์ ไทสัน มาได้อีกทั้ง 2 ครั้ง ในการเผชิญหน้ากันบนสังเวียน เมื่อปี 1996 รวมทั้ง 1997.

อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ อดีตแชมป์โลกรุ่นใหญ่คนอเมริกัน เปิดเผยข่าวดีให้แฟนๆได้รับรู้ว่า การเจรจารายละเอียดการคัมแบ็กภาคสามกับ ไมค์ ไทสัน ใกล้บรรลุข้อตกลงในไม่ช้า

เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เจ้าของฉายา “มฤตยูดำ” ซึ่งตอนนี้อายุ 53 ปี ได้ออกมาแย้มว่า พร้อมหวนคืนสู่สังเวียนอีกทีในไฟต์การกุศล 4 ชู

จนถึงล่าสุด โฮลีฟิลด์ ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้าผ่าน The 3 Point Conversation ว่า “คนของผมกำลังคุยกับคณะทำงานของเขา (ไทสัน) ถึงจะยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน แม้กระนั้นมันก็กำลังจะเกิดขึ้น”

“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็น เราทั้งสองคนกำลังทำบางสิ่งด้วยกัน ใจความสำคัญของมันเป็นการคัมแบ็ก มูลนิธิของผม (โฮลีฟิลด์ ฟาวน์เดชั่น) มีความต้องการที่จะช่วยเหลือเด็กๆ”

“ผมต้องการที่จะกลับมารวมทั้งแสดงให้เด็กๆเห็นว่า หากคุณดูแลสภาพร่างกายให้ดีในวัยรุ่น พอถึงตอนแก่คุณก็จะไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลอะไร ไหมต้องกังวลว่าจะมีคนรอดูแลคุณหรือเปล่า”ดังนี้มีข่าวลือในโลกโซเชียลว่า ไฟต์ดังกล่าวอาจมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ค.นี้ ที่ซาอุดีอาระเบีย นอกสังเวียน

อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ รับรองไม่มีปัญหาถ้าหากจะต้องหวนไปเจอหน้ากับ ไมค์ ไทสัน บนสังเวียนอีกรอบ พร้อมมั่นใจว่าเป็นข้างคว้าชัยได้เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน

ก่อนหน้านี้ นักต่อยเจ้าของฉายา “มฤตยูดำ” ยืนยันเตรียมกลับมาขึ้นสังเวียนอีกทีใน 15 ปี เพื่อหาเงินช่วยการกุศล ซึ่งสื่อหลายสำนักเดาโจทก์เก่าวัย 57 ปี น่าจะเป็นคู่ปรับที่ถูกเลือกให้กลับมาฟาดปากกันอีกที ในวัยเฉียดแซยิด

ซึ่งล่าสุด โฮลีฟิลด์ เปิดใจกับ BBC Radio 5 live ถึงความพร้อมในคราวนี้ว่า “ถ้าเขาต้องการผมก็พร้อมจัดให้ แต่ว่าผมจะไม่เป็นคนท้าทายเขาก่อนหรอกนะ เพราะถ้าทำอย่างนั้นจะดูอย่างกับว่าผมเป็นคนเลว ที่ต้องการต่อยกับคนซึ่งเคยแพ้ผมมาแล้ว 2 ครั้ง”

“ผมไม่ต้องการกดดันตนเองว่า คุณอยากสู้กับคนอย่าง ไมค์ ไทสัน เพราะว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าสามารถเอาชนะเขาได้ หากเขาต่อยผม ผมก็แค่ต่อยกลับ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่ามวยจริงๆ”

“ผมกำลังจะอายุ 58 ส่วนเขา 54 ปี แต่ว่ามันไม่ใช่ปัญหาหรอก เนื่องจากคุณกำลังกล่าวกับผู้ที่ดูแลสุขภาพดี ซึ่งกำลังทำในสิ่งที่สมควร”

ดังนี้มีข่าวลือว่า ไฟต์หยุดโลกภาค 3 ของ ไมค์ ไทสัน แล้วก็ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ จะมีขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย.

หนึ่งในนักชกแชมป์โลกเฮฟวี่เวตที่แกร่งที่สุดคนหนึ่งที่สมัย 90’s ไม่เสพยา ไม่บ้าผู้หญิง และไม่ติดพนัน เขาเป็นเด็กบ้านแตกที่สู้ตายเพื่อความฝันโดยไม่แวะนอกลู่นอกทางราวนักมวยผู้อื่นโน่นเป็นสิ่งที่ปรากฎผ่านสื่อ ทว่าแม้ว่าเป็นไนซ์กายขนาดนั้น เหตุไรในที่สุด อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ ก็เลยกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ในขณะที่หาเงินตลอดอาชีพการต่อยกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นักมวยแทบทุกคนมีเบื้องหลังชีวิตที่อย่างกับลอกแบบกันมาทั้งหมด กำเนิดในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ สู้กับความยากไร้ และก็เติบโตในสังคมที่สุ่มเสี่ยงกับการจะเสียคนอยู่รอมร่อ กล่าวได้ว่าอนาคตเกือบจะโยนหัวก้อยเลยทีเดียว

อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ ก็เป็นหนึ่งในนักมวยที่มีชะตาชีวิตแบบนั้น แต่ว่ามีข้อแตกต่าง 1 ข้อแต่ว่ายิ่งใหญ่ โน่นเป็นแม่ของเขา … แม่เลี้ยงผู้เดียวที่ตั้งใจเลี้ยง อีแวนเดอร์ ลูกชายของคุณให้เปลี่ยนเป็นผู้ที่เจริญทางความคิด แล้วก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด เท่าที่คุณจะมีเรี่ยวแรงผลักดันลูกชายคนนี้

แอนนี่ … แม่ของ โฮลีฟิลด์ นั้นพยายามอาบน้ำให้ลูกชายด้วยสติปัญญา คุณใส่ความแข็งแกร่ง, ความขยัน, ความเป็นคนโอบอ้อมอารีย์ รวมทั้งความมุ่งมั่น เข้าไปให้ อีแวนเดอร์ เด็กๆในเขตนั้นอาจเริ่มหันไปอยู่กับกลุ่มเมื่อเป็นวัยรุ่น แต่ โฮลีฟิลด์ นั้นโดนส่งไปเรียนหนังสือ โดนจับไปซ้อมมวยในโรงยิม

ข้อดีของ โฮลีฟิลด์ เป็นเขาเป็นเด็กที่รู้เรื่องอะไรง่าย เพียงแค่ได้ดูสายตาของแม่ในวันที่เขาสอบได้คะแนนดีๆหรือได้แชมป์มวยรุ่นเยาวชน เขาก็รู้ว่าสิ่งกลุ่มนี้ทำให้คุณแฮปปี้ที่สุด ด้วยเหตุผลดังกล่าว โฮลีฟิลด์ ก็เลยกลายเป็นผู้ที่อยากทำให้แม่ของเขาเป็นสุขที่สุด ผ่านคติพจน์ที่ถูกสอนมาว่า “เมื่อคุณมีจิตใจที่อดทน คุณสามารถเลือกที่สิ่งที่คุณอยากจะเป็นได้”

เขาผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันจูเนียร์โอลิมปิกตั้งแต่อายุ 13 ปี แล้วถัดมาอีก 2 ปี ก็แปลงเป็นแชมป์ระดับภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยสถิติสุดยอดเกินอายุ ชนะไปถึง 160 ไฟต์ และก็เป็นการน็อคเอาต์ 76 ครั้ง แพ้ไปแค่เพียง 14 ไฟต์เท่านั้นเอง ซึ่งความยอดเยี่ยมนี้ก็ถูกต่อยอดด้วยการได้เป็นนักต่อยอาชีพต่อไป รวมทั้งแปลงเป็นนักต่อยที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่สมัย 90 ‘s เลยทีเดียว

สิ่งที่ โฮลีฟิลด์ เป็นมาตั้งแต่เด็ก ส่งต่อถึงสไตล์การต่อยและก็การวางตัวในแวดวงมวยของเขา โฮลีฟิลด์ เป็นนักต่อยที่ไม่ค่อยใช้คำกล่าวสำหรับการไซโคใคร ไม่ใช้ถ้อยคำเหยียดคู่แข่ง รวมทั้งที่สำคัญ เขามีพฤติกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษที่แวดวงมวยคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะ ไมค์ ไทสัน คู่แข่งขันตัวฉกาจที่เคยกัดหูของ โฮลีฟิลด์ กระทั่งเป็นไฟต์ระดับตำนาน ยังเคยพูดว่า “โฮลีฟิลด์ เป็นลูกผู้ชายที่น่ายำเกรง ผมและก็เขาต่างมีจุดเริ่มต้นจากแหล่งเสื่อมโทรมก่อนที่จะกลายเป็นที่ยอมรับในฐานะยอดนักต่อย”

“ของแท้” เป็นฉายาของ โฮลีฟิลด์ โดยมีที่มาจากพฤติกรรมบนเวทีที่ดุเดือดรวมทั้งครบเครื่อง ด้วยเทคนิคตามแบบฉบับมวยที่เคยต่อยแบบสากลสมัครเล่นมาก่อน ขณะที่พฤติกรรมนอกสนามนั้นถือได้ว่าผู้ที่หัวจิตหัวใจห้าวหาญมาก

หลายคนอาจจะรู้เรื่องว่าเขาเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวตเพราะพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ว่าแท้จริงแล้วมันเกิดจากความพากเพียรรวมทั้งความทะเยอทะยานอย่างที่สุด เนื่องจากว่ายุคที่ขึ้นมาชกมวยอาชีพใหม่ๆโฮลีฟิลด์ ยังคงต่อยในรุ่นครุยเซอร์เวตกระทั่งถูกเรียกว่าเป็น “มวยครุยเซอร์เวตที่ดีที่สุดตลอดกาล” ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาไปต่อยในรุ่นยักษ์ (เฮฟวี่เวต) นั้นก็เพราะเขาต่อยในรุ่นครุยเซอร์เวตกระทั่งสามารถเป็นแชมป์โลกไม่มีแพ้ ผู้ไม่มีคู่แข่งขันคนใดให้ทดลองตัวเองอีกต่อไปนั่นเอง

และก็ถึงแม้จะต้องทำน้ำหนักขึ้นมาซัดกับผู้ที่ตัวใหญ่กว่าในรุ่น เฮฟวี่เวต จนถึงเสียสถิติไม่มีแพ้ในที่สุด โฮลีฟิลด์ ก็ยังสามารถปราบหมดรุ่นและไปถึงแชมป์โลกได้เช่นเคย เพราะฉะนั้นฉายา “เรียล ดีล” เป็นอะไรที่เหมาะสมกับนักมวยและยอดคนอย่างเขาที่สุด