เหมือนฝันไป เดอร์ริค ลูอิส อัปเปอร์คัทหมัดสอยดาวกล่อม เคอร์ติส เบลดส์ หลับกลางอากาศ ก่อนเอาชนะ TKO ไปได้แบบกลับความคาดหมายในยกที่ 2 

เหมือนฝันไป ศึก UFC Fight Night: Blaydes vs Lewis ถูกเลื่อนการแข่งขันมาจากวันที่ 29 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เนื่องปัญหาเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยศึกล้มยักษ์คราวนี้เป็นการเจอกันของ เคอร์ติส อีกหนึ่งจอมน็อคเอ๊าต์รุ่นยักษ์ชาวอเมริกันที่ด้อยกว่าแชมป์โลกชั้น 2 จะต่อสู้หน้ากับ เดอร์ริค ลูอิส จอมระห่ำเพื่อนร่วมชาติดีกรีรองแชมป์โลกชั้น 4ในสังเวียน APEX ARENA ลาส เวกัส สหรัฐฯ

เหมือนฝันไป

เริ่มยกแรกตอนต้นยก ลูอิส ได้โอกาสยิงฮุคขวาเข้าใบหน้า กระทั่งออกอาการ ต่อจากนั้นทั้งคู่คนก็อาศัยการชิงจังหวะการต่อสู้วงนอก โดยด้านหลังยกแรก

เหมือนฝันไป สบโอกาสเตะตัดขาของ ได้ 2-3 ครั้งกับตามซ้ำ แม้กระนั้นดันเกิดอุบัติเหตุนิ้วของ ไปจิ้มตาของโอกาสทองจึงผ่านไป ก่อนที่จะสิ้นเสียงระฆังยกแรก ข่าว มวยไทย

ไปสู่ยกที่ 2 ซึ่งเป็นยกในที่สุดของการต่อสู้คราวนี้ โดนต้นยก เป็นฝ่ายรุกไล่ทันหน แต่พลาดท่าโดนอัปเปอร์คัทขวาของ ลูลิส จนถึงหลับกลางอากาศ ก่อนที่จะถูกตามซ้ำอีก 2-3 หมัด ก่อนที่จะผู้ตัดสินจะสั่งจบการต่อย โดย เดอะ แบล็คบีสต์ เป็นข้างชนะ TKO เคอร์ตำหนิส “เดอะ เรเซอร์”ไปได้ในยกที่ 2 อย่างงดงาม

เหมือนฝันไป ข้างหลังสยบ ได้ เดอะ แบล็คบีสต์ ก็ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของตนว่า “ผมรู้สึกเหมือนฝันไป ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องจริง นี่เป็นไฟต์ที่ผมพอใจที่สุด ไม่เคยมีผู้ใดกันแน่ที่พนันว่าผมจะชนะ พวกเขาทำความเข้าใจสิ่งนี้เมื่อหลายปีก่อน ผมอาจจะแพ้มาแล้วมาก แม้กระนั้นอย่าประมาทผม ไม่ว่าจะผมจะเหลือเวลาน้อยนิดมากแค่ไหน แต่ว่าผมจะสามารถหยุดคุณได้”

ในตอนที่สมัยก่อนแชมป์โลกรุ่นยักษ์อย่าง เดอะ พิตบูล อันเดร เอร์ลอฟสกี ไอ้หมาบ้าจากเบลารุส เสียเชิงให้กับ ทอม อัสปินัลล์ นักสู้รูปหล่ออังกฤษ โดยโดนจับซับมิทชันในยกที่ 2 ส่งผลให้นักสู้จากเมืองหงส์แดง ประเทศ ที่ครองสถิติชนะ 10 แพ้ 2 แล้วก็ยังชนะแบบไม่ครบยกมาแล้วถึง6 ไฟต์ต่อเนื่องกัน แถมยังไม่เคยปราชัย TKO ให้กับใครด้วย

สำหรับศึก UFC Fight Night: Blaydes vs Lewis มีคู่การต่อสู้ที่ถูกยกเลิกการแข่งขัน 2 คู่ประกอบไปด้วย จามาล เอมเมอร์ส ที่ขอถอนตัวจากอาการบาดเจ็บก่อนขึ้นสังเวียนเจอกับ ชาส สเกลลี ส่วนอีกคู่ในรุ่นไลท์เวทระหว่าง แดร็กเกอร์ โคลเซ กับ เปญา ถูกเลื่อนออกไปจากปัญหาการตรวจค้นเชื้อไวรัสโควิด-19 ของนักกีฬาและก็คณะทำงาน อี้หลงกังฟู

“เดอะ เรเซอร์” เจ้าของน้ำหนักตัว 120 กก. มีสถิติการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาเมื่อเก็บความมีชัยได้ถึง 14 ไฟต์ แล้วก็แพ้เพียงแค่ 2 ไฟต์แค่นั้น กับการต่อสู้ในสังเวียนแปดเหลี่ยม

เหมือนฝันไป โดยไฟต์ปัจจุบันของ เอาชนะคะแนน อเล็กซานเดอร์ โวลคอฟ จอมเก๋าจากรัสเซีย ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โน่นทำให้สถิติของ เบลดส์ สำหรับในการขึ้นต่อสู้ 4 ไฟต์หลังสุดนั้นชนะรวด แถมยังเป็นการได้รับการยกมือแบบไม่ครบยกถึง 2 ไฟต์

เหมือนฝันไป

ในตอนที่ เดอะ แบล็คบีสต์ คู่ต่อสู้ของ เบลดส์ ก็นับว่าอันตรายพอได้ โดยสถิติการต่อสู้ของ ลูอิส ชนะ 24 แพ้ 7 ซึ่งการพ่ายของ มักแพ้แบบไม่ครบยก

และก็ชอบโดนหมัดของคู่แข่งส่งลงไปกองกับพื้นเวทีอยู่บ่อยมาก อย่างไรก็ดีฟอร์มในช่วงหลัง จัดว่ารองแชมป์โลกชั้น 4 มีความก้าวหน้าที่ดีขึนเรื่อยเมื่อเป็นข้างเก็บชัยได้ 3 ไฟต์ต่อเนื่องกัน ก่อนที่จะมาปะทะต่อสู้หน้ากับ เบลดส์ ในวันอาทิตย์นี้

ส่วนรองคู่เอกเป็นการฟาดฟันกันในรุ่นรองลงมาอย่าง ไลท์เฮฟวี่เวท ที่ แอนโธนี สมิธ นักสู้ชาวอเมริกันเจ้าของสถิติชนะ 33 แพ้ 16 จะขึ้นชกดวลกับ เดวิน คลาร์ก คู่ต่อสู้ชาติเดียวกันที่ครองสถิติชนะ 12 แพ้ 4

ไฟต์นี้ถือเป็นไฟต์สำคัญสำหรับทั้งคู่ โดย “เดอะ ไลออนส์ ฮาร์ท” ผลงานพักหลังไม่ดีเอาซะเลย เมื่อพ่ายใน 2 ไฟต์ล่าสุด ส่วน บราวน์กางร์ ก็ชนะคะแนนคู่แข่งมาในสองไฟต์หลังสุดเช่นกัน ด้วยเหตุนั้นก็เลยต้องเน้นเป็นพิเศษกับการต่อสู้ในวันอาทิตย์นี้

เหมือนฝันไป สำหรับตัวแทนจากทวีปเอเชียที่จะขึ้นมาโชว์ฝีมือในรายการนี้ก็มีอย่าง ทาคาชิ ซาโตะ นักสู้จากประเทศญี่ปุ่น ที่จะเจอกับ มิเกล บาเอซา นักสู้ไม่มีพ่ายแพ้คนประเทศอเมริกาที่มีสถิติชนะรวด 9 ไฟต์ในเวทีกรงเหล็ก ในพิกัดรุ่น เวลเตอร์เวท

อีกหนึ่งรายเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นฟลายเวท โดยนักสู้จากเมืองจีนเชื้อสายทิเบตอย่าง “อินทรีทิเบต” ซู มูต๋าเอ๋อจี เจ้าของสถิติ ชนะ 12 แพ้ 4 จะเจอกับ มัลคอล์ม กอร์ดอน คู่ต่อสู้จากแคนาดา ผู้มีสถิติการต่อสู้เท่ากับ มูต๋าเอ๋อจี แบบเป๊ะๆนั่นก็คือชนะ 12 แพ้ 4