ในวันที่วางมือ แม้ว่าจะตกลงปลงใจล่ำลาสังเวียนหมัดอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อเดือนสิ้นเดือนกันยายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ในวันที่วางมือ แต่ “เดอะ แพ็คแมน” แมนนี่ปาเกียวอดีตกาลยอดนักต่อยชาวประเทศฟิลิปปินส์ ก็ยังคงได้รับความชอบใจอยู่ตามเดิม โดย หมัดจอมเก๋าวัย 42 ปี ตกลงปลงใจจบทางหมัดมวยด้านหลังประกาศว่าจะสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าในบ้านเกิด

แต่ว่าจะต้องคิดแผนเดินทางออกเดินสายหาเสียงในทุกชุมชนแทน ซึ่งก็มีหญิงข้างกายอย่าง จินกี้ ภรรยาสาวเดินคู่ไปทุกหนแห่ง สำหรับเรื่องราวความรักของทั้งคู่ที่ดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันเยอะแยะว่า 20 ปี มีผู้รู้เห็นเหตุการณ์รักเป็นลูก ๆ ถึง 5 คน

นับได้ว่ารักจริงซึ่งทั้งคู่นั้นพบกันในห้าง ข้างหญิงเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่ขายผลิตภัณฑ์ความงดงาม ก่อนจะขว้างเกียว จะมาพบคุณที่ร้าน เริ่มจีบคุณก่อนใช้เวลาแค่เพียง 7 เดือนปราบดวงใจคุณ รวมทั้งแต่งงานในวันที่ 10 พฤษภาคม 2000

ปัจจุบันนี้ ยอดหมัดดินแดนปินส์ โพสต์ภาพหวานกับคู่แต่งงานพร้อมใจกลมเกลียวความ “มันราวกับการกล่าวคำปฏิญาณครั้งใดก็ตามเราได้ไปร่วมงานแต่งงาน คุณเป็นเพศเมียคนเดียวที่ผมต้องการจะดำรงชีวิตที่เหลือด้วย” คนร้ายในโลก

งานนี้บอกเลยเป็นอีกมุมที่เราไม่เคยลงความคิดเห็นว่าเจ้าตัวนั้นจะโรแมนติกเป็นกับเขาเหมือนกัน สำหรับ แมนนี่ปาเกียวได้รับการสรรเสริญจากวงการหมัดโลก เป็นเจ้าของแชมป์โลก 8 รุ่น คนแรกและคนเดียวของโลกที่ทำเป็น มีสถิติชนะ 62 แพ้ 8 เสมอ 2 ครั้ง

แล้วหลังจากนั้นก็ติดโผนักกีฬาที่ทำเงินได้มากที่สุดที่ทศวรรษ 2010 (ในตอนระหว่างปี 2010-2019) โกยไปได้มากถึง 435 ล้านเหรียญอเมริกา (ราว 13,106ล้านบาท) ติดอันดับที่ 8 สำหรับในการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ แมกกาซีนทางการเงินเป็นที่รู้จักของอเมริกา

ในวันที่วางมือ

ในวันที่วางมือ “ฤทธิ์เทวดา” มาแรงแย่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งมาถือครองพร้อมชน “น้องโอ๋”

“ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี” เปิดตัวอย่างปังในไฟต์แรกบนเวทีวัน ด้วยการเอาชนะทีเคโอ “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ในศึกวัน:เน็กซ์เจน2 เมื่อ 12 พ.ย.64 คว้าฟาสต์แทร็กแซงทะลุแรงกิงขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้ท้าชิงเบอร์หนึ่งวัน มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต จ่อคิวขึ้นชิงสายรัดเอวแชมป์กับเจ้าบัลลังก์ฆ่าไม่ตาย

“น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ดูราวกับว่าผู้ครอบครองฉายานาม “เทวดาเดินดินกินส้มตำ” จะไม่ได้มีแม้กระนั้นความรู้ความเข้าใจอย่างเดียวถึงแม้พกดวงมาเต็มกระเป๋าด้วย เริ่มจากการที่เขาถูกส้มตกใส่เมื่อได้โอกาสเป็นมวยขัดตาทัพแทงแทน “พระอาทิตย์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่ถอนต่อยกระทันหัน

เขาก็เลยได้แสดงตัวหนแรกบนเวทียอดเยี่ยมตอนหลังประกาศเป็นนักกีฬาวัน สุดความสามารถได้เพียงแต่เดือนเศษ โชคชั้นลำดับที่สองเป็นการเอาชัยชนะผู้รั้งอันดับที่หนึ่งของแรงกิงรุ่นนี้อย่าง ใบเสมาเพชร ซึ่งอย่างกับเป็นสปริงบอร์ดส่งให้เขาแซงหน้าคู่อริคนอื่นในแรงกิงคว้าตั๋วชิงแชมป์โลกได้ในไฟต์แรกที่ลงแข่งขัน

อย่างไรก็ดี กว่าจะได้เรื่องมีชัยนี้มา ฤทธิ์เทวดาก็เผยออกมาว่าแทบจะเอาตัวไม่รอดกันสิ่งเดียวกัน ด้วยเหตุว่าการประจันหน้ากับมือวางลำดับหนึ่งผู้แข็งแกร่งอย่างเสมาเพชร ไม่ใช่ง่าย โดยเขาเองเป็นข้างถูก เสมาเพชรกระซวกหมัดซัดจนกระทั่งตกนอนลงให้ผู้ตัดสินนับก่อนในยกแรก

ยกต่อมาเขาก็เลยตกลงปลงใจว่าจึงควรเดินเปลี่ยนเพื่อทำแต้มติดตาม และก็สบจังหวะสับศอกแบบหมดกระเป๋าโดนบริเวณเหนือขนคิ้วขวาของ เสมาเพชร แตกเป็นแผลฉกรรจ์ จนกระทั่งกรุ๊ปแพทย์สนามและคณะกรรมการลงความเห็นว่าให้จบการต่อยและจากนั้นก็ยกมือให้ฤทธิ์เทวดา เป็นข้างชนะทีเคโอ ไปในที่สุด ข่าว มวยไทย

ก่อนหน้านี้ ฤทธิ์เทวดาเคยให้สัมภาษณ์ว่าตนแลเห็นเพื่อนเกลอนักมวยคนอื่น ๆ ได้โลดแล่นและชิมรสชัยบนเวทียอดเยี่ยมอย่าง วัน แชมเปียนชิพ เขาก็เลยมุ่งมาดปรารถนาที่จะสัมผัสประสบการณ์รวมถึงช่วงเวลาสุดพิเศษแบบเดียวกันบ้าง

และวันนี้ เขาก็เข้าใจกันดีถึงความรู้สึกนั้นแล้ว “ผมแคล่วคล่องว่องไวใจมากครับ และดีอกดีใจที่ทำให้คนที่คอยให้การสนับสนุนรวมทั้งช่วยเหลือผมรู้สึกสุขสบายไปด้วย นั่นก็คือ เสี่ยโบ๊ท (ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์) พี่ฮอต (พีรภัทร ศิริเรือง) รวมทั้งครอบครัวเพชรยินดีฯ ทุกคนครับผม ผมก็ขอมอบชัยครั้งนี้เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับ เสี่ยโบ๊ท ด้วยนะครับ”

เมื่อถูกสอบถามหาจุดมุ่งหมายต่อไปจากนี้ ฤทธิ์เทวดาก็ยังคงรับประกันกระจ่างว่าการคว้าสายรัดเอวแชมป์โลกวัน มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เป็นเป้าหมายสูงสุด ซึ่งมีความหมายว่าเขาพร้อมท้าชนกับ น้องโอ๋ เสมอ หรือถ้าเสมาเพชร ต้องการจะกลับมาแก้ตัวอีกครั้งเขาก็ยินดีแบบเดียวกัน

ในวันที่วางมือ

“โจ ณัฐวุฒิ” ปัดบัญชี “ดาฟเทียน” ชนิดผู้ตัดสินสั่งเลิกการต่อย

ถือได้ว่าเป็นไฟต์ที่สมใจแฟนหมัดชาวไทยเป็นอย่างมาก สำหรับการคืนสังเวียนในรอบกว่า 2 ปี ของ “สโมกกิ้น โจ” ณัฐวุฒิในศึกวัน:เน็กซ์เจน2 ที่สังเวียน อินดอร์ สเตเดี้ยม, ประเทศสิงคโปร์ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน ก่อนหน้าที่ผ่านมา

โดย อดีตสมัยมวยไทยฝีมือดีจากเมืองย่าโม วัย 32 ปี หวนวงการได้อย่างงดงามสำหรับเพื่อการต่อย คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟคุณร์เวต (70.3 กก.) ด้านหลังเป็นข้างเอาชนะน็อก ยูริก ดาฟเทียน นักต่อยชาวรัสเซียที่ได้รับการชมเชยว่าหมัดหนัก ไปได้แค่เพียงยกแรกของการแข่งขันชิงชัยเท่านั้น

เริ่มเกมมาทั้งคู่เปิดตัวเปลี่ยนอาวุธใส่กันอย่างดุเดือดพวกไม่มีผู้ใดยอมคนใดกันแน่ ก่อนจะในช่วงปลายยก โจณัฐวุฒิจะฉวยโอกาสทองปล่อยหมัดขวาสวนเข้าเต็มคาง หมัดหมีขาว หงายท้องลงไปนอนที่พื้นเวที ซึ่งแม้ ยูริก ดาฟเทียน จะมานะบากบั่นกัดฟันยืนขึ้นมาสู้ต่อ

แม้กระนั้นระบบสั่งร่างกายไม่เหมือนเดิมทำให้เซล้มลงไปอีกครั้ง ทำให้คณะกรรมการตัดสินจิตใจเลิกการต่อยไปตอนท้าย แล้วหลังจากนั้นก็ยกมือให้ “สโมกกิ้น โจ” ณัฐวุฒิชนะน็อกในนาทีที่ 2.50 ของยกแรกเท่านั้น

https://www.cornermxpark.com